Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ในซีรีส์ Y คือ Vivo Y300i ในประเทศจีน ซึ่งเป็นรุ่นที่ต่อยอดจาก Y200i โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับ 5G และหน้าจอที่มีอัตราการรีเฟรชสูง ในราคาที่คุ้มค่า มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นนี้กัน

สเปคของ Vivo Y300i

Vivo Y300i มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz ซึ่งทำให้การใช้งานดูลื่นไหล พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5MP ที่ติดตั้งในรอยบากแบบ hole-punch

ภายในเครื่องใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 8-core ที่ผลิตในเทคโนโลยี 4nm ประกอบด้วย CPU Cortex-A78 และ Cortex-A55 โดยมี GPU Adreno 613 สำหรับการประมวลผลกราฟิก

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับ RAM สูงสุด 12GB ซึ่งสามารถขยายได้ถึง 24GB ด้วยฟีเจอร์ Virtual RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 512GB ใช้เทคโนโลยี UFS 2.2 สำหรับการอ่านเขียนข้อมูลที่เร็วขึ้น แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก

สำหรับกล้อง, Vivo Y300i มีกล้องหลังความละเอียด 50MP ที่มีรูรับแสง f/1.8 และไฟแฟลช LED แต่ไม่มีการเพิ่มเซ็นเซอร์กล้องเสริมหรือกล้องอัลตร้าไวด์ ในด้านความปลอดภัย, มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ในปุ่มเปิด/ปิดด้านข้างเครื่อง

แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ

Vivo Y300i มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 6500mAh รองรับการชาร์จเร็ว 44W เพื่อให้การใช้งานในระยะยาวสะดวกยิ่งขึ้น สมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น 5G (SA/NSA), Dual 4G VoLTE, Wi-Fi ac, Bluetooth 5.1, GPS, NFC และพอร์ต USB-C นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอและช่องเสียบ USB-C สำหรับการเชื่อมต่อเสียง แต่ไม่มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.

การออกแบบและสีสัน

Vivo Y300i มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Jade Black, Titanium และ Rime Blue โดยมีดีไซน์ที่บางเฉียบ แม้ว่าจะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ตัวเครื่องมีความหนาประมาณ 8.09 มม. ถึง 8.19 มม. และน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 205-206 กรัม ขึ้นอยู่กับสีที่เลือก

ราคาและการวางจำหน่าย

Vivo Y300i วางจำหน่ายใน 3 เวอร์ชัน ดังนี้:

  • 8GB RAM + 256GB storage – ราคา 7,600 บาท
  • 12GB RAM + 256GB storage – ราคา 8,100 บาท
  • 12GB RAM + 512GB storage – ราคา 9,100 บาท
การพรีออเดอร์เริ่มต้นแล้วในวันนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ส่วนการวางจำหน่ายในต่างประเทศยังไม่มีการยืนยันจากทาง Vivo

ที่มา : gizmochina