Apple อัปเดต iOS 18.3 เพิ่มการสนับสนุนบริการ Starlink Direct-to-Cell สำหรับผู้ใช้ T-Mobile ในพื้นที่ห่างไกล

เมื่อวานนี้ Apple ได้เผยอัปเดต iOS 18.3 ให้กับผู้ใช้ iPhone ทั่วโลก ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่ถูกระบุไว้ในบันทึกการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการ นั่นคือการเพิ่มการสนับสนุนสำหรับบริการ Starlink direct-to-cell ของ T-Mobile สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา บริการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการการสื่อสารไร้สาย เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความหรือแชร์ตำแหน่งในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณเครือข่ายมือถือ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในป่าเขา, ทะเล, หรือพื้นที่ห่างไกลที่เครือข่ายมือถือไม่สามารถเข้าถึงได้

บริการ Starlink direct-to-cell เปิดตัวในโหมดเบต้าเมื่อเดือนก่อน โดยบริการนี้จะใช้ดาวเทียมจาก Starlink ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมที่พัฒนาโดย SpaceX เพื่อติดต่อกับโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ผ่าน T-Mobile เมื่อผู้ใช้เข้าถึงบริการนี้จะสามารถส่งและรับข้อความ SMS รวมถึงแชร์ตำแหน่งผ่านดาวเทียมได้แม้จะอยู่นอกเหนือขอบเขตของเครือข่ายมือถือปกติ

การอัปเดต iOS 18.3 ทำให้การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม Starlink เป็นไปโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องปรับทิศทางหรือทำการตั้งค่าพิเศษใดๆ เพื่อให้โทรศัพท์เชื่อมต่อกับดาวเทียม การทำงานจะเป็นไปอย่างราบรื่นและอัตโนมัติเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณเครือข่ายมือถือ เมื่อการเชื่อมต่อสำเร็จ ผู้ใช้จะเห็นไอคอน T-Mobile SpaceX บนหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งจะเป็นสัญญาณว่าโทรศัพท์ได้เชื่อมต่อกับดาวเทียมแล้ว

บริการนี้ยังรองรับเฉพาะ iPhone 14 ขึ้นไป โดยผู้ที่ใช้ iPhone 14 หรือรุ่นใหม่กว่าที่อัปเดตเป็น iOS 18.3 และเป็นผู้ใช้บริการ T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา จะสามารถใช้งานบริการนี้ได้ เมื่อ T-Mobile ดำเนินการทดสอบฟีเจอร์นี้ในโหมดเบต้า โดยบริการนี้จะให้ใช้ฟรีในช่วงทดลองใช้งาน และ T-Mobile จะประกาศราคาเชิงพาณิชย์เมื่อเปิดตัวบริการเต็มรูปแบบในปีนี้

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายบริการไปยังการเชื่อมต่อข้อมูลและการโทรผ่านดาวเทียมในอนาคต ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมได้แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ปกติ การขยายบริการนี้ยังรวมไปถึงแผนที่จะขยายการบริการไปยังประเทศอื่นๆ โดย T-Mobile จะทำงานร่วมกับ SpaceX และเครือข่ายโรมมิ่งระดับโลก เพื่อให้ผู้ใช้ในต่างประเทศสามารถเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมได้เช่นกัน

ฟีเจอร์ใหม่นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการสื่อสาร เพราะมันเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายมือถือได้ อนาคตของการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกลอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมกำลังขยายตัวและเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

ที่มา : bloomberg