อินโดนีเซียเตรียมเพิ่มข้อกำหนดใหม่ อาจทำให้เกิดการแบนการขายสมาร์ทโฟนครั้งใหญ่กว่าเดิม

ตามรายงานจาก Reuters อินโดนีเซียกำลังพิจารณาเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศในสมาร์ทโฟนที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันโดยรองรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการเสริมสร้างภาคการผลิตในประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น

กฎใหม่: สัดส่วนชิ้นส่วนในประเทศอย่างน้อย 40%

กฎระเบียบปัจจุบันของอินโดนีเซียกำหนดให้สมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในประเทศต้องมีส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 40% เพื่อสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมท้องถิ่นและเพิ่มโอกาสการจ้างงาน

• ล่าสุด Apple ถูกแบนจากการจำหน่าย iPhone 16 ในอินโดนีเซีย เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
• Google Pixel 9 ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศเช่นกัน

เหตุผลเบื้องหลังการแบน

รัฐบาลอินโดนีเซียยืนยันว่ากฎเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันสำหรับนักลงทุนและผู้ผลิตในประเทศ แม้ผู้บริโภคยังสามารถซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นที่ถูกแบน เช่น iPhone 16 และ Pixel 9 จากต่างประเทศและนำเข้าอินโดนีเซียได้ แต่ต้องเสียภาษีนำเข้า

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น เช่น การปิดการใช้งานอุปกรณ์ที่นำเข้าผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต

ข้อเสนอของ Apple กับปัญหาที่ไม่จบง่าย

Apple พยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเสนอเงินลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในอินโดนีเซีย เพื่อตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนสำหรับ iPhone แต่ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลอินโดนีเซีย

แม้ Apple จะหวังว่าเงินจำนวนนี้จะช่วยยกเลิกการแบน iPhone 16 ในประเทศได้ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะไม่สนใจเงินลงทุนดังกล่าว

ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน

กฎระเบียบเหล่านี้สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทสมาร์ทโฟนระดับโลกที่ต้องการเข้าถึงตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก

• ผู้บริโภคในอินโดนีเซีย:
  ผู้ที่ต้องการใช้ iPhone หรือ Pixel รุ่นล่าสุดอาจต้องซื้อจากต่างประเทศหรือผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเพิ่มต้นทุนในการครอบครองอุปกรณ์
• นักท่องเที่ยว:
  ไม่ได้รับผลกระทบจากกฎเหล่านี้ สามารถนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้าประเทศได้
• อุตสาหกรรมในประเทศ:
  กฎเหล่านี้อาจกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานในอุตสาหกรรมการผลิตท้องถิ่น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจลดการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน

อนาคตของการลงทุนและข้อกำหนดใหม่

อินโดนีเซียยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าพร้อมรับข้อเสนอใหม่จาก Apple หรือบริษัทอื่น ๆ แต่การที่ประเทศปฏิเสธเงินลงทุนมูลค่าสูงจาก Apple แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างฐานการผลิตภายในประเทศมากกว่า

ในระยะยาว หากกฎระเบียบนี้ถูกปรับให้เข้มงวดยิ่งขึ้น อาจส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติหันมาลงทุนตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซียมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย แต่ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคในประเทศอาจเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง

อนาคตของการเจรจาระหว่าง Apple และรัฐบาลอินโดนีเซียยังคงต้องติดตามต่อไปว่า Apple จะเสนอแผนการลงทุนใหม่ที่สามารถผ่านข้อกำหนดได้หรือไม่ หรือจะยอมถอยออกจากตลาดอินโดนีเซียอย่างถาวร