ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการอัปเดต Windows 11 ครั้งล่าสุด โดยเฉพาะแพตช์ KB5063878 และ KB5062660 ที่ถูกกล่าวหาว่าอาจทำให้ SSD บางรุ่นที่ใช้คอนโทรลเลอร์จาก Phison เกิดปัญหาขัดข้องถึงขั้นใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้บางรายระบุว่าเจออาการไดรฟ์หายไปจากระบบหรือข้อมูลเสียหาย ขณะที่ครีเอเตอร์สายเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มอย่าง YouTube และ TikTok ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้จนกระแสขยายวงกว้างและสร้างความกังวลให้กับผู้ใช้ทั่วไป เนื่องจาก Microsoft เองเคยมีประวัติการอัปเดตที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากกระแสข่าวแพร่กระจายไปไม่นาน Phison ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ยืนยันว่า หลังจากรับทราบรายงานตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม บริษัทได้เร่งดำเนินการทดสอบทันที โดยมีการรันการทดสอบมากกว่า 2,200 รอบ รวมระยะเวลามากกว่า 4,500 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถพบปัญหาที่สอดคล้องกับรายงานที่เผยแพร่บนโซเชียล นอกจากนี้ยังไม่มีพันธมิตรหรือผู้ผลิตรายใดแจ้งมาว่าได้รับผลกระทบจากปัญหานี้จริง ขณะที่ Microsoft เองก็ได้ออกแถลงตามมาว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างอัปเดตความปลอดภัยเดือนสิงหาคม 2025 กับอาการเสียหายของ SSD ที่ถูกอ้างในโลกออนไลน์

กระแสที่เกิดขึ้นคาดว่าเริ่มจากผู้ใช้รายหนึ่งในญี่ปุ่นที่โพสต์บน Twitter ว่า SSD ของตนหยุดทำงานหลังการอัปเดต ก่อนที่จะมีผู้ใช้อื่น ๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าพบอาการคล้ายกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าปัญหาดังกล่าวแพร่หลายหรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับแพตช์ที่ปล่อยออกมา ความเป็นไปได้อีกประการคืออาจเป็นปัญหาเฉพาะของกลุ่ม SSD ที่มีข้อบกพร่องจากการผลิตมากกว่าจะเกิดจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการจริง จึงทำให้ ณ เวลานี้ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าผู้ใช้ทั่วไปควรกังวลเกี่ยวกับการอัปเดต Windows 11 ครั้งนี้มากนัก แม้ว่ากระแสข่าวในโซเชียลมีเดียจะพยายามเชื่อมโยงให้ดูน่าตื่นตระหนกก็ตาม

ที่มา : theverge