TSMC ยังคงครองความเป็นผู้นำในฐานะโรงงานผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้ารายใหญ่จากหลายอุตสาหกรรม เช่น Apple, Nvidia, AMD, MediaTek, Qualcomm และ Broadcom ที่ไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตชิปตามแบบที่ออกแบบมา รายงานจาก TrendForce ซึ่งเผยแพร่โดย The Chosun Daily ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 TSMC สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นอีก 2.4% แตะระดับ 67.1% หรือคิดเป็นสัดส่วนราวสองในสามของชิปที่ถูกผลิตขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะเดียวกัน Samsung Foundry ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญ กลับสูญเสียส่วนแบ่งตลาดจาก 9.1% ลดลงเหลือ 8.1% ปัญหาหลักที่ซัมซุงเผชิญอยู่คือประสิทธิภาพในการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่ยังต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะกระบวนการผลิตระดับ 2 นาโนเมตรที่ยังมีอัตราการผลิตสำเร็จ (yield rate) เพียง 30% ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ปัญหาดังกล่าวทำให้ Samsung ต้องเลือกใช้ชิป Snapdragon 8 Elite for Galaxy จาก Qualcomm สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series ทุกรุ่น แทนการใช้ชิป Exynos ของตัวเอง

หากซัมซุงไม่สามารถแก้ไขปัญหาการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นภายในระยะเวลาอันใกล้ ก็อาจเกิดกรณีเดียวกันกับ Galaxy S26 Series ที่จะเปิดตัวในปี 2025 โดยคาดว่ารุ่น Galaxy S26 และ Galaxy S26+ อาจยังคงใช้ชิป Exynos 2600 เฉพาะบางภูมิภาค ขณะที่ตลาดสำคัญอย่าง สหรัฐฯ จีน และแคนาดา จะยังใช้ Snapdragon เช่นเดิม

การเติบโตของ TSMC ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแส ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความต้องการชิปประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิป GPU ของ Nvidia ที่ใช้สำหรับฝึกและพัฒนาโมเดล AI เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ผลิตโดย TSMC นอกจากนี้ ชิปสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์อย่าง Apple A-Series ที่ใช้ใน iPhone รวมถึง Snapdragon 8 Elite 2 สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงของ Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ TSMC รักษาความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

ในตลาดโรงงานผลิตชิปอันดับสามของโลก SMIC จากจีน ยังคงมีข้อจำกัดในการแข่งขันเนื่องจาก มาตรการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งห้ามไม่ให้บริษัทสามารถเข้าถึงเครื่องพิมพ์ชิป Extreme Ultraviolet Lithography (EUV) ที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิประดับ 5 นาโนเมตรหรือต่ำกว่า ทำให้ SMIC ยังไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ในตลาดชิประดับสูงได้อย่างเต็มที่

ด้านรายได้ TSMC ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยทำรายได้สูงถึง 26.85 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ Samsung Foundry กลับมีรายได้ลดลง 1.4% เหลือ 3.26 พันล้านดอลลาร์ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า TSMC ยังคงเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ และมีแนวโน้มจะขยายอำนาจเหนือคู่แข่งต่อไปในอนาคต

ที่มา : phonearena