เวียดนามกำลังเร่งสร้างความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยได้มีการลงมติเห็นชอบจากสมัชชาแห่งชาติให้มีโครงการนำร่องที่มีนโยบายและกลไกพิเศษจำนวนหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งมีจุดสำคัญในการลงทุนสำหรับการก่อสร้างโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกในประเทศ เวียดนามจะสนับสนุนการลงทุนนี้ทางการเงินเพื่อรองรับการวิจัย การฝึกอบรม และการผลิต ซึ่งจะเป็นการพัฒนาโรงงานที่สามารถรองรับการผลิตขนาดเล็กไปพร้อมกับการวิจัยในเวลาเดียวกัน

นายเหวียน หมั่น หุ่ง รัฐมนตรีสารสนเทศและการสื่อสารของเวียดนามได้กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการ ซึ่งโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยในการวิจัยและการผลิต โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทรายใดที่เข้าร่วมในโครงการนี้ แต่ปัจจุบันบริษัทเวียดนามบางรายเช่น FPT และ Viettel ได้เริ่มต้นเข้าสู่อุตสาหกรรมการออกแบบและการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์แล้ว

หนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่นของ Viettel คือการออกแบบชิป 5G DFE ซึ่งเป็นชิปที่ซับซ้อนที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยชิปนี้สามารถประมวลผลสัญญาณวิทยุ 5G และการคำนวณได้ถึง 1,000 พันล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับประเทศเวียดนาม

ด้านนายเล กว่าง ดัม ซีอีโอของบริษัทมาร์เวลล์ เทคโนโลยี เวียดนาม กล่าวว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเวียดนามในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในบริบทของความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน โอกาสนี้อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเวียดนามได้อย่างยั่งยืน

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ลงนามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจนถึงปี 2030 พร้อมตั้งวิสัยทัศน์ถึงปี 2050 โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเวียดนามให้มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นเพียงประเทศที่ทำการแปรรูปสินค้าเพียงอย่างเดียว

รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะพัฒนาโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะรองรับการผลิตภายในประเทศและยังสามารถมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกได้ โดยในระยะยาว การพัฒนาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในกรณีที่ห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์หยุดชะงัก

ล่าสุดในโครงการดังกล่าว รัฐบาลเวียดนามได้เตรียมงบประมาณสนับสนุนกว่า 12.8 ล้านล้านดอง (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) ในการก่อสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์แห่งนี้ โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนทางการเงินถึง 30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ซึ่งหากโรงงานได้รับการอนุมัติและเริ่มการผลิตก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2030 การช่วยเหลือทางการเงินจะมีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านล้านดอง (ราว 1.34 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่ลงทุนในโครงการนี้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนามในอนาคต

การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในภาคการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม ซึ่งอาจช่วยยกระดับประเทศให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในอนาคต