เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ผู้ก่อตั้งและนักพัฒนา DeepSeek ปรากฏการณ์ AI ต้นทุนต่ำที่ท้าทายวงการเทคโนโลยีโลก
วันที่โพสต์: 28 มกราคม 2568 21:35:37 การดู 5 ครั้ง ผู้โพสต์ admin
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ DeepSeek สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีน ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการเทคโนโลยี หลังบริษัทสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า ChatGPT-o1 ของ OpenAI แต่ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยี AI และความคุ้มค่าของการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้
กระแสความสนใจที่พุ่งสูง
DeepSeek ซึ่งก่อตั้งขึ้นในกลางปี 2023 โดย เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) นักลงทุนและนักพัฒนาชื่อดังของจีน ได้เปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ที่มีความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ในระดับสูง โดยใช้เทคโนโลยี Open-Source ที่เข้าถึงได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ การเปิดตัวนี้สร้างความตื่นตัวในวงการเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะใน Silicon Valley ที่กำลังจับตาว่า DeepSeek จะสามารถท้าทายบริษัทใหญ่ๆ อย่าง OpenAI, Meta และ Google ได้หรือไม่
ตลาดหุ้นสั่นสะเทือน
การเปิดตัว DeepSeek-R1 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในคืนวันที่ 27 มกราคม 2025 โดยตลาดสูญเสียมูลค่ากว่า หลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในคืนเดียว นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการลงทุนใน AI ที่มีต้นทุนสูง ในขณะที่ DeepSeek ได้พิสูจน์แล้วว่า AI ประสิทธิภาพสูงสามารถพัฒนาได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
เหลียง เหวินเฟิง: ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
เหลียง เหวินเฟิง วัย 40 ปี เป็นผู้ก่อตั้ง DeepSeek และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ เขาจบการศึกษาด้านวิศวกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสารจาก มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำของจีน ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ High-Flyer ที่ใช้ AI ในการตัดสินใจลงทุน และประสบความสำเร็จอย่างสูง
เหลียงให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า DeepSeek ถูกออกแบบมาเพื่อการวิจัยระยะยาว โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนา Artificial General Intelligence (AGI) หรือปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป ที่มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ เขาย้ำว่าเป้าหมายของบริษัทไม่ใช่การแสวงหาผลกำไร แต่เป็นการสำรวจและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ในด้าน AI
ทำไม DeepSeek-R1 ถูกกว่า?
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ DeepSeek-R1 มีต้นทุนต่ำคือการที่เหลียง เหวินเฟิง ได้วางแผนล่วงหน้าโดยการสั่งซื้อ GPU ประเภท Nvidia A100 จำนวนมากตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในการฝึกโมเดล AI ปัจจุบัน DeepSeek มี GPU เหล่านี้มากกว่า 50,000 หน่วย ทำให้บริษัทสามารถฝึกโมเดล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน
นอกจากนี้ DeepSeek ยังใช้กลยุทธ์การลดราคาเพื่อให้โมเดล AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มในจีนที่บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Alibaba, Tencent และ Baidu ต่างแข่งขันกันลดราคาโมเดล AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้มากขึ้น
ผลกระทบต่อวงการ AI
การเกิดขึ้นของ DeepSeek สร้างแรงกระเพื่อมในวงการ AI เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่กำลังตั้งคำถามว่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะสามารถรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีไว้ได้หรือไม่ ในขณะที่ DeepSeek ได้พิสูจน์แล้วว่าการพัฒนา AI ประสิทธิภาพสูงไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาลเสมอไป
อนาคตของ DeepSeek
ด้วยความสำเร็จในการเปิดตัว DeepSeek-R1 และการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัท ทำให้เหลียง เหวินเฟิง และ DeepSeek ถูกจับตามองจากทั่วโลก แอปพลิเคชันของ DeepSeek ยังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ตแอปพลิเคชันฟรีของ iPhone ทั้งในจีนและสหรัฐอเมริกา แซงหน้า ChatGPT ที่เคยครองความนิยมมาก่อนหน้านี้
ในอนาคต DeepSeek วางแผนที่จะขยายการวิจัยและพัฒนา AI ต่อไป โดยมุ่งเน้นที่การสร้าง AGI ที่สามารถทำงานได้หลากหลายด้าน และมีศักยภาพเทียบเท่ามนุษย์ ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในระยะยาว
แท็ก: DeepSeek Liang Wenfeng