ยอดขายรถยนต์ดิ่งต่อเนื่อง กกร. เรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียกระบะ
วันที่โพสต์: 2 พฤศจิกายน 2567 21:11:43 การดู 25 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ คืออัตราการก่อหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะหรือปิกอัพ ที่หลายธุรกิจใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ทำให้สถาบันการเงินต้องเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ส่งผลให้ยอดขายรถลดต่ำลงไปอีก
สถานการณ์นี้รุนแรงถึงขั้นที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลเร่งเข้ามาช่วยเหลือ ผ่านการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น กลาง และยาว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ขอให้รัฐบาลช่วยระงับการยึดรถกระบะหรือปิกอัพที่ค้างค่างวดชั่วคราว เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพยังสามารถใช้รถในการทำงานต่อไปได้ โดยทาง กกร. จะหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อหามาตรการที่เหมาะสม
จากข้อมูลล่าสุด จำนวนหนี้เสียในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ พุ่งสูงถึงเกือบ 3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวล หากมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้กลายเป็น "หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้" อีกครั้ง ธนาคารและบริษัทไฟแนนซ์น่าจะพร้อมให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสมจากภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 หนี้เสีย (NPL) ที่ค้างชำระเกิน 90 วันอยู่ที่ 1.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 13.3% ในจำนวนนี้มีหนี้รถยนต์อยู่ที่ประมาณ 259,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.6%
ขณะที่ นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ 39,048 คัน ลดลงถึง 37.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายในปีนี้ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวด ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยที่เติบโตเพียง 2.3% ในไตรมาสที่สอง
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อ เช่น การเจรจาปรับค่างวด การพักชำระค่างวด หรือการขยายเวลาผ่อนชำระ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ รวมถึงการแนะนำให้ลูกหนี้รีบติดต่อกับเจ้าหนี้เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ
สถานการณ์นี้ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังจากที่ กกร. ได้ขอให้รัฐบาลและธนาคารสนับสนุนมาตรการบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ประกอบอาชีพที่ใช้รถปิกอัพในการทำงาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผู้ประกอบการได้