BYD เรียกคืนรถกว่า 97,000 คัน พบชิ้นส่วนพวงมาลัยเสี่ยงเพลิงลุกไหม้

     ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า บริษัท BYD (Build Your Dreams) ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ เมื่อต้องประกาศเรียกคืนรถยนต์จำนวนมากถึง 97,000 คัน อันเนื่องมาจากปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนพวงมาลัย เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

รายละเอียดของปัญหาและสาเหตุของการเรียกคืน

     ตามรายงานจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีน (State Administration for Market Regulation - SAMR) ปัญหาที่นำไปสู่การเรียกคืนครั้งนี้เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering System - EPS) โดยเฉพาะในส่วนของโมดูลควบคุม EPS ซึ่งพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการลัดวงจรและความร้อนสูงเกินไป

รายละเอียดทางเทคนิคระบุว่า:

  1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าภายในโมดูล EPS มีจุดอ่อนที่อาจทำให้เกิดการลัดวงจรได้ในบางสถานการณ์
  2. วัสดุที่ใช้ในการหุ้มฉนวนสายไฟบางส่วนอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรเมื่อต้องเผชิญกับความร้อนสูง
  3. ระบบระบายความร้อนของโมดูล EPS อาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการจัดการกับความร้อนที่เกิดขึ้นในสถานการณ์การใช้งานที่หนักหน่วง

         ปัญหาเหล่านี้รวมกันทำให้เกิดความเสี่ยงที่โมดูล EPS จะเกิดความร้อนสูงเกินไป ซึ่งในกรณีร้ายแรงที่สุด อาจนำไปสู่การลุกไหม้ได้

รุ่นรถที่ได้รับผลกระทบ

     การเรียกคืนครั้งนี้ครอบคลุมรถยนต์ BYD หลายรุ่น ที่ผลิตระหว่างวันที่ 4 มกราคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  1. BYD Han EV และ DM (ไฮบริดปลั๊กอิน): จำนวนประมาณ 49,000 คัน
  2. BYD Tang DM (ไฮบริดปลั๊กอิน): จำนวนประมาณ 31,000 คัน
  3. BYD Seal EV: จำนวนประมาณ 17,000 คัน

      นอกจากนี้ ยังมีรุ่นอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบในจำนวนที่น้อยกว่า เช่น BYD Dolphin และ BYD Seagull ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

แผนการแก้ไขและการดำเนินการของ BYD การแก้ไขทางเทคนิค

      BYD ได้ประกาศแผนการแก้ไขปัญหาอย่างละเอียด ซึ่งประกอบด้วย:

  1. การเปลี่ยนโมดูล EPS ทั้งชุดด้วยรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงการออกแบบ
  2. การติดตั้งระบบระบายความร้อนเพิ่มเติมสำหรับโมดูล EPS
  3. การอัปเดตซอฟต์แวร์ควบคุมระบบ EPS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและป้องกันการเกิดความร้อนสูงเกินไป

กระบวนการเรียกคืน

     BYD ได้วางแผนกระบวนการเรียกคืนอย่างละเอียด ดังนี้:

  1. การแจ้งเตือน: บริษัทจะส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังเจ้าของรถทุกคันที่ได้รับผลกระทบ พร้อมรายละเอียดของปัญหาและขั้นตอนการแก้ไข
  2. การนัดหมาย: เจ้าของรถสามารถนัดหมายเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจาก BYD ผ่านแอปพลิเคชันมือถือหรือเว็บไซต์ของบริษัท
  3. การดำเนินการ: การแก้ไขจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อคัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับลูกค้า
  4. การติดตามผล: หลังจากการแก้ไข BYD จะติดตามผลกับลูกค้าเพื่อตรวจสอบความพึงพอใจและประสิทธิภาพของการแก้ไข

มาตรการป้องกันในอนาคต

      เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้อีกในอนาคต BYD ได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่:

  1. การเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการทดสอบและควบคุมคุณภาพ โดยเฉพาะในส่วนของระบบความปลอดภัยที่สำคัญ
  2. การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในรถยนต์
  3. การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานรถยนต์แบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ผลกระทบต่อ BYD และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าผลกระทบทางการเงิน

     การเรียกคืนครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบทางการเงินต่อ BYD อย่างมีนัยสำคัญ:

  1. ต้นทุนโดยตรงในการแก้ไข: ประมาณการณ์เบื้องต้นระบุว่าค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วนและดำเนินการแก้ไขอาจสูงถึง 200-300 ล้านหยวน (ประมาณ 28-42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  2. ผลกระทบต่อยอดขาย: คาดว่ายอดขายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 อาจลดลง 5-10% เนื่องจากความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับความปลอดภัย
  3. ค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์และการตลาด: BYD อาจต้องเพิ่มงบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์

ผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น

      แม้ว่าการเรียกคืนครั้งนี้อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ BYD ในระยะสั้น แต่วิธีการจัดการกับปัญหาของบริษัทอาจช่วยบรรเทาผลกระทบในระยะยาวได้:

  1. ความโปร่งใสในการสื่อสาร: BYD ได้เลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความรับผิดชอบของบริษัท
  2. การตอบสนองอย่างรวดเร็ว: การประกาศแผนการแก้ไขที่ชัดเจนและครอบคลุมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
  3. การลงทุนในความปลอดภัย: การประกาศมาตรการป้องกันในอนาคตอาจช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า BYD ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

      เหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง:

  1. การเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแล: หน่วยงานกำกับดูแลอาจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้า
  2. การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา: บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ อาจเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
  3. การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน