วิธีขับรถเมื่อเจอน้ำท่วม ขับอย่างไรให้ปลอดภัย
วันที่โพสต์: 7 ตุลาคม 2567 23:43:51 การดู 127 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
การขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมเป็นสถานการณ์ที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรเตรียมพร้อม แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การขับผ่านน้ำที่มีระดับสูงหรือในพื้นที่ที่น้ำไหลแรงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ทั้งต่อรถยนต์และผู้ขับขี่ การประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าและมีความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว โดยเฉพาะการเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วม เช่น ความเสี่ยงที่น้ำอาจไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า หรือท่อไอเสีย ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลให้รถเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อพบกับสถานการณ์น้ำท่วมขณะขับรถคือการประเมินระดับน้ำ การขับรถเข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำลึกเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์ดับได้ หากน้ำสูงกว่าครึ่งล้อหรือประมาณ 15 เซนติเมตรขึ้นไป รถยนต์อาจมีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น การตรวจสอบระดับน้ำและหลีกเลี่ยงการขับผ่านพื้นที่ที่น้ำลึกมากจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ นอกจากนี้ การขับช้า ๆ ด้วยความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการขับเร็วจะทำให้เกิดคลื่นน้ำที่สามารถซัดเข้ามาในรถหรือทำให้น้ำกระเด็นเข้าสู่ส่วนที่สำคัญของรถได้ง่าย
การขับด้วยความเร็วต่ำจะช่วยควบคุมการไหลของน้ำรอบ ๆ รถยนต์ให้คงที่และลดแรงดันน้ำที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ การรักษาความเร็วอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของน้ำในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันก็ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการกระเซ็นของน้ำและการเบรคกะทันหันที่อาจทำให้รถเสียการควบคุมได้ง่ายขึ้น
ในกรณีที่ขับผ่านน้ำท่วม การใช้เกียร์ต่ำเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มกำลังให้กับรถยนต์ขณะขับผ่านน้ำที่ลึกเล็กน้อย เนื่องจากเกียร์ต่ำจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันน้ำออกจากท่อไอเสียและลดโอกาสที่น้ำจะไหลเข้าสู่ระบบไอเสียได้ การรักษารอบเครื่องให้คงที่ยังช่วยให้รถยนต์สามารถขับผ่านน้ำได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการหยุดรถกลางน้ำ เนื่องจากการหยุดรถในน้ำท่วมจะเพิ่มโอกาสให้น้ำเข้ามาในท่อไอเสียหรือส่วนต่าง ๆ ของรถมากขึ้น หากต้องหยุด ควรหาที่จอดรถในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมเพื่อความปลอดภัย หลังจากขับผ่านน้ำท่วม ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์และระบบต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบเบรก เพราะน้ำสามารถทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเบรกลดลงได้ การเหยียบเบรกเบา ๆ หลายครั้งหลังจากผ่านน้ำจะช่วยให้ผ้าเบรกแห้งและกลับมาทำงานได้ตามปกติ
นอกจากนี้ น้ำท่วมที่ไหลแรงเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง แม้ว่าระดับน้ำจะไม่สูงมาก แต่ความแรงของกระแสน้ำอาจเพียงพอที่จะทำให้รถยนต์เสียการควบคุมหรือถูกพัดพาได้ การขับรถผ่านน้ำที่ไหลแรงจึงควรหลีกเลี่ยง หากพบเจอกับสถานการณ์น้ำไหลแรง ควรมองหาเส้นทางอื่นที่ปลอดภัยกว่าหรือรอให้น้ำลดลงก่อนจะขับต่อไป
อีกสิ่งที่ควรตรวจสอบหลังจากขับรถผ่านน้ำคือระบบไฟฟ้าภายในรถ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเบรก เนื่องจากน้ำท่วมอาจทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายได้ ในกรณีที่ไฟไม่ทำงาน ควรนำรถเข้าตรวจสอบและซ่อมแซมก่อนที่จะใช้งานอีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
นอกเหนือจากนี้ การเตรียมตัวสำหรับเหตุฉุกเฉินเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอเมื่อขับรถในพื้นที่น้ำท่วม เช่น การพกเครื่องมือซ่อมรถพื้นฐาน สายพ่วงแบตเตอรี่ หรือแม่แรง เพื่อใช้ในกรณีที่รถดับหรือไม่สามารถขับผ่านน้ำได้ การมีอุปกรณ์เหล่านี้ติดรถไว้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด